เรื่องราวของ “น้อยใจยา – แว่นแก้ว” เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มชาวบ้านชื่อ “น้อยใจยา” (คนเมืองเวลาบวชเป็นเณร เมื่อสึกออกมาจะนำหน้าว่า “น้อย” นำหน้า ส่วนถ้าสึกจากพระ จะเรียกว่า “หนาน”) ได้รักชอบพอกันกับ “นางแว่นแก้ว” ลูกสาวคหบดี แต่ว่าตางบ้านนางแว่นแก้วได้หมั่นหมายนางแว่นแก้วไว้กับ “ส่างนันตา” พ่อค้าชาวปะหล่องตองสู (พม่า) ข่าวนี้ก็ไปเข้าหูน้อยใจยา น้อยใจยาเลยนัดนางแว่นแก้วมาสอบถามความจริง พอซักถามความจริงแล้วน้อยใจยาก็รู้ว่า แท้จริงแล้วนางแว่นแก้วได้รักน้อยใจยาอย่างแนบแน่น จึงตัดสินใจที่จะพากันหนี แต่หนีได้ไม่นานเท่าไร พ่อของนางแว่นแก้วกับส่านนันตา ก็พาคนออกติดตาม จนพบทั้งสองในที่สุด เรื่องราวก็เลยขึ้นโรงขึ้นศาล เพื่อให้ศาลตัดสินปัญหาความรักในครั้งนี้ ส่างนันตาหาว่าน้อยใจยา ได้ลักคู่หมั้นหนีไป แต่พอซักถามไปมา ตัวน้อยใจยากับนางแว่นแก้วก็ชนะความ ทำให้ทั้งสองคนก็ได้แต่งงานกันในที่สุด (“น้อยใจยา – แว่นแก้ว” เป็นบทละครที่ท้าวสุนทรพจนกิจ (ใหม่ บุญมา) กวีประจำราชสำนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ประพันธ์ขึ้นถวาย (ตามที่พระราชชายาทรงผู้เรื่อง) และประทานอนุญาตแสดงในโอกาสคล้ายวันประสูติ (ครบ 60 พรรษา แสดงที่วัดสวนดอก) ซึ่งพระราชชายาทรงแกัไขบทบางตอนให้เหมาะสม พร้อมกับทรงประพันธ์คำร้องประกอบทำนองเพลง พื้นเมืองเดิมของล้านนา
เพลง น้อยใจยา
ศิลปิน จรัล สุนทรีย์
เนื้อร้องน้อยใจยา
@จรัล & สุนทรีย์
.
(..ชาย.)
ปวง ดอกไม้ เบ่งบานสลอน….
ฝูงภมร ภู่ผึ้งสอดไซร้
ดอกพิกุลของเปิ้นต้นใต้
ลมปัดไม้มาสู่บ้านตู๋
ฮู้แน่ซัดเข้าสอดสองหู
ว่าสีจมปู ถูกป้อมเก๊าเนิ้ง….
เก๊ามันต๋าย ป๋ายมันเซิ่ง
ลำกิ่งเนิ้ง ต๋ายโก่นตวยแนว
ดอกพิกุล ก่คือดอกแก้ว
ไปเป๋นหองเปิ้น แล้ว เหนอ
….(.หญิง.)
แปม เก๊าเนิ้ง กิ่งมันบ่ถอน….
บ่ไหวคลอนเฟือนเตี่ยงมันแต้เล่า
ต๋ามกำลม เปิ้นปัดออกเข้า
มีแต่เก๊า ไหวหวั่นคลอนเฟือน
กิ่งมันแต้ บ่แซสะเหลือน
บ่เหมือนลมเจย
ลำเพย ก่จะนั้น….
ใจ๋คำญิง นี้หนิมเตี่ยงมั่น
บ่เป๋นหองเปิ้น..คนใด
ยังเป๋นกระจก แว่นแก้วเงาใส
บ่ไหวคลอนเงี่ยง จาย เหนอ
….(.ชาย..)
ตั๋ว ปี้น้อยจักขอถาม….
ต๋าม กำลมเปิ้นมาเล่าอู้
ว่านายมีจู้ อยู่บ้านวังสิงห์คำ
ฝ่ายตางปู้นเปิ้นมาใส่ผะจ๋ำ
บ้านวังสิงห์คำ เปิ้นมาหมั้นก่ไว้แล้ว….
ตางฝ่ายปั๋นตั๋ว น้องนางแว่นแก้ว
ก่ตกลงแล้ว บ่ไจ่กาหา
เปิ้นจะกินแขก แต่งก๋านก่วิวาห์
เมื่อใดจา ปี้น้อยไคร่ฮู้เก้า….
ส่วนไจยาบ่สมเปิงเจ้า
เพราะเขียมเข้าของ..เงินทอง
ฝ่ายตางนาย บ่หมายเกี่ยวข้อง
มาละหมองต่ำ ก้อย เหนอ
….(.หญิง.)
ตั๋ว น้องนี้บ่ลาไหลหลง….
ก๋านตกลงก่ยังบ่แล้ว
จึงเจิญตั๋วปี้มาห้วยแก้ว
เพราะใคร่ฮู้กำฟู่กำจ๋า
จึงเจิญน้อย ปี้มาเปิกษา
จะว่าใดจา ตั๋วน้องก่ไคร่ฮู้….
ก๋านตี้มาฟู่อู้
จะเอาเป็นจู้กาว่าเอาเป๋นเมีย
หรือจักลบล้างลืมลายหน่ายเสีย
บ่เอาเป๋นเมีย
หรือจักทิ้ง เสียแล้ว….
หรือเอาเป๋น เมียนางจ้างแก้ว
อยู่เป๋นกู้ ข้างเตียมคิง
ขอบอกนายหื้อแน่ใจ๋จริง
บ่อำพรางนาถ น้อง เหนอ
….(..ชาย.)
บ่จุ๊หรอกน้อง หื้อหม่นหมองหมาง..
บ่ล่อลวงพรางแม่นางฮ้างแค้ว
ปี้หมายเอาเป๋นเมียนางจ้างแก้ว
บ่หื้อคลาดแคล้วเรื่องกำสีเนห์
หลอนแก้วน้องใจยังบ่เหว
เตี่ยงสมคะเน เหมือนปี้กึ๊ดเล่า….
หลอนปี้จุ๊ก็ยังล่ายเจ้า
ขอหื้อฟ้าผ่าหัวแม่เมียตาย
ลูกแม่ญิง อู้เล่นก่บ่ดาย
ลูกป้อจาย อู้แต้ก่บ่ปัง….
หลอนนายต๋ายไปเป๋นไก่ตั้ง
ปี้น้อยจักต๋ายเป็นพื้น
ฟู่บ่ถูก วันฟูกก่บ่ขืน
ฟู่ม่าคืนตึงบ่ขืนเมื่อจ้าว….
ก๋านฮักกั๋นหองข้าตึงเจ้า
เผียบเหมือนเหล้า..กับปาง
ปากกำไดปี้ก็ตึงอ้าง
บ่ไจ่จางจาก น้อง เหนอ
….(.หญิง.)
หลอน ว่าแต้เหมือนดั่งกำจา….
น้องขอสัญญากับตั๋วปี้น้อย
บ่ขอฮักไผ ซักเต้ากึ่งก้อย
ขอฮักปี้น้อย ไจยานี้ก่คนเดียว
คนอื่นนับร้อยตึงบ่แลบ่เหลียว
จะขอฮักเดียวจายเดียวก่เต้านี้….
หลอนว่าน้องจุ๊หรือสัปปะรี้
ขอหื้อฟ้าผ่าหัวพ่อผัวต๋าย
ลูกแม่ญิงบ่ไจ่ว่าบ่ดาย
ลูกป้อจายขี้จุ๊ก่แต้ๆ….
กิ๋นก่ยังตึงแก้ สะเรียมยำใส่แย้
บะเขือแจ้ยำใส่เตา
หลอนปี้น้อยไจยาฮักแต้ข้าเจ้า
ก็ยินดีจิ่ม แต้ เหนอ