อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ(เชียงใหม่)

30 November 2020

1147

อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ(เชียงใหม่) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ประวัติอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ พร้อมกรอบวงเงินงบประมาณดำเนินงาน โดยจัดสรรงบประมาณอุดหนุนก่อสร้างอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ผ่านสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวน 497 ล้านบาท โดยมีสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานกำกับดูแลการดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั้ง 3 แห่ง
อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (Northern Science Park) ขับเคลื่อนกลไกในการสร้างกระบวนการสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมโดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นแม่ข่ายดำเนินงานบริหารจัดการร่วมกับ 6 มหาวิทยาลัยเครือข่ายในภาคเหนือ ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ในด้านพื้นที่ในการดำเนินงานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ จำนวน 52.71 ไร่ ในพื้นที่การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่วิทยาเขตดอยคำ พร้อมจัดสรรพื้นที่สำหรับการก่อสร้างอาคารออกเป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรกได้ก่อสร้างอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานต้นแบบ Innovative Food Fabrication Pilot Plant ในพื้นที่จัดสรรส่วนที่ 2 โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จภายในปี 2562

อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่)

อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวนทั้งสิ้น 497 ล้านบาท ผ่านสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) ตั้งอยู่บนพื้นที่การศึกษา ตำบลแม่เหียะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 และเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นมา โดยอาคารฯ แห่งนี้ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่าง ๆ ตามลักษณะการทำงานแบบ Quadruple Helix ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชนในพื้นที่ เพื่อการสร้างระบบนิเวศน์เชิงนวัตกรรมนำไปสู่การสร้างนิคมวิจัยที่สมบูรณ์แบบ และเป็นสะพานในการเชื่อมโยงและผลักดันงานวิจัยออกสู่เชิงพานิชย์ รวมถึงการสนับสนุนและเสริมสร้างเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านการวิจัยและพัฒนาของทุกภาคส่วน