วัดทรายมูลเมือง ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่
วัดทรายมูลเมือง ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3 ถนนถนนมูลเมือง ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์:089-431-3726 สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2030
วัดทรายมูลเมืองสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2030 ได้รับประทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2450 เดิมเรียกว่าอารามบ้านแป๊ะ เนื่องจากสมัยก่อนยังเป็นเพียงอารามไม่มีพระอุโบสถ ต่อมาจึงมีการสร้างพระอุโบสถและการแต่งตั้งให้เป็นวัด และตั้งชื่อว่าวัดทรายมูลเมือง เหตุที่ให้ชื่อว่าวัดทรายมูลเมือง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่น้ำจากห้วยแก้ว ไหลลงสู่คลองแม่ข่า แล้วสายน้ำก็ไหลลงสู่แม่น้ำปิง ซึ่งบริเวณที่น้ำจากห้วยแก้วไหลลงสู่คลองแม่ข่า เรียกว่าแจ่งขะต้ำ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่สายน้ำมาบรรจบกัน ในฤดูน้ำหลากจะมีปลามากมายบริเวณนี้ชาวบ้าก็จะพากันทำที่ดัดปลาด้ายไม้ไผ่ ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่าแจ่งขะต้ำ นอกจากจะมาปลามาแล้วในฤดูน้ำหลากน้ำก็จะพัดพาทรายมากองทำให้เห็นบริเวณนี้เป็นหาดทรายในช่วงฤดูน้ำลด สมัยก่อนบริเวณวัดด้านทิศใต้จะคลอบคลุมบริเวณบ้านพักคนชราธรรมนุปกรณ์ ซึ่งเดิมบริเวณดังกล่าวเป็นสระน้ำและมีหอไตรกลางน้ำซึ่งเป็นสร้างโดยช่างฝีมือชาวล้านนาเพื่อใช้เป็นที่เก็บหนังสือธรรม และพระไตรปิฎก คนสมัยก่อนนิยมสร้างหอไตรกลางน้ำเนื่องจากต้องการป้องกันปลวกที่จะมากัดกินหนังสือธรรมและพระไตรปิฎก ซึ่งภายหลังเมื่อมีการสร้าบ้านพักคนชรา จึงมีการย้ายหอไตรมาไว้ในเขตวัดที่ตั้งปัจจุบันและได้ปฏิสังขรณ์เมื่อปีฉลู วันที่ 15 พฤศจิกายน 2480 ซึ่งใช้งบประมาณ 98,157 บาท โดยชั้นล่างก่อเป็นตึกปูนใช้เป็นที่จำวัดของพระภิกษุส่วนชั้นบนเป็นตัวหอไตรเดิม ซึ่งปัจจุบันก็ได้ชำรุดเสียหายไปมาแล้ว จากการสอบถามเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันทราบว่าภายในไม่ได้ใช้เป็นที่เก็บหนังสือธรรมหรือพระไตรปิฎกแล้ว
ลำดับเจ้าอาวาส:
รายนามเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบ 1. พระครูอุบาลี (จากเมืองน่าน) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ.
2. พระอธิการปัญญา (ลาสิกขา) “”
3. พระอธิการอารินท์ (มรณะภาพที่วัดป่าแดง) “”
4. พระอธิการคำหล้า (ลาสิกขา) “”
5. พระอธิการชื่น (จากวัดดอกเอื้อง,ลาสิกขา) “”
6. พระอธิการสม (จากวัดดอนจั่น,ลาสิกขา) “”
7. พระมหาพรหม (จากวัดพันตอง,ลาสิกขา) “”
8. พระอธิการอูบ อินทรจักโก (มรณะภาพ) “”2501 – 2542
9. พระอธิการปรีดา จันทรสาโร (จากลำพูน)“” 2545 – ปัจจุบัน
งานสถาปัตยกรรม
1 วิหาร ศิลปะแบบล้านนา
2 หอไตร สร้างโดยช่างฝีมือชาวล้านนา
3 เจดีย์ ศิลปะแบบล้านนา
4 พระอุโบสถ
5 กุฏิเจ้าอาวาส แบบล้านนาประยุกต์ครึ่งตึกครึ่งไม้
งานศิลปกรรม
1 พระประธาน เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ตามคำบอกเล่าบอกว่า สมัยก่อนมีคนพยายามที่จะนำพระพุทธรูปองค์นี้ไปประดิษฐานที่วัดอื่น แต่พยายามอย่างไรก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนพระพุทธรูปได้ จึงต้องปล่อยให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้ต่อไป พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์
2 พระพุทธรูปหลูบเงิน เป็นพระที่หล่อด้วยเงินแท้ หล่อเมื่อปี พ.ศ. 2430 โดยบริเวณฐานของพระพุทธรูปจารึกชื่อ สาธุเจ้าคุณาและข้อความซึ่งเป็นภาษาล้านนา ซึ่งมีใจความสำคัญดังนี้ “จุลศักราช 1249 ปีเมืองไก๊ เดือน 7 เพ็ญ ( พ.ศ.2430 ปีกุน ตรีศก เดือน 5 เพ็ญ ) ไทยวันเมืองเร้า ศรัทธาพระอธิการคุณาเป็นประธานสร้างพระองค์นี้ ร่วมกับพ่อแม่พี่น้องลูกศิษย์ทุกคนเพื่อค้ำชูศาสนาตราบ 5,000 พระวัสสา ปราถนาให้เป็นสุข 3 ชั้น มีนิพพานเป็นแดนที่สูงสุดเทอญ” หมายถึง “พระพุทธรูปองค์นี้หล่อเมื่อ พ.ศ. 2430 โดยมีเจ้าอาวาสชื่อ พระอธิการคุณา”
3 พระสิงห์ 1 เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของภาคเหนือ และเก็บไว้ภายในวัดโดยไม่ให้ผู้ใดพบเห็น