มหาวิทยาลัยพายัพ (อังกฤษ: Payap University) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2517 โดยนับเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่ถูกเปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2527
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
สัญลักษณ์
-
ตราประจำมหาวิทยาลัย -
ตราประจำมหาวิทยาลัย
(ภาษาอังกฤษ)
เครื่องหมายมหาวิทยาลัย เป็นรูปวงกลม ตรงกลางประกอบด้วยวงกลมเล็กสามวงซ้อนกัน มีสัญลักษณ์ของ ศาสนา วิทยาศาสตร์ และศิลป์ โดยมีวงกลมตรงกลางมีสัญลักษณ์ของมนุษย์ที่มีความสมดุลในชีวิต ด้านบนวงกลมมีข้อความว่า “มหาวิทยาลัยพายัพ” ด้านล่างมีข้อความว่า “สัจจะ-บริการ” ภาษาอังกฤษ “PAYAP UNIVERSITY” และ “TRUTH-SERVICE” อันเป็น คติพจน์ และเป็นส่วนหนึ่งในปณิธานของมหาวิทยาลัย
ดอกไม้และต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
ดอกไม้และต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ บุนนาค ( Mesua ferrea Linn ) ซึ่งมีความหมายดังนี้
ดอกบุนนาค
มีสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ความสะอาด หมดจด คุณงามความดี
มีกลิ่นหอม ทำให้เกิดความพึงพอใจ เป็นสัญลักษณ์ของการขจายขจรชื่อเสียง
มีลักษณะเป็นรูปฉัตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติศักดิ์อันสูงส่ง คือคุณค่าแห่งชีวิต
ต้นบุนนาค
มีสรรพคุณทางรักษาโรค เป็นสัญลักษณ์การรักษาความเจ็บปวดทั้งกายและใจซึ่งหมายถึง ความรู้และสัจจะที่บัณฑิต ของ มหาวิทยาลัยพายัพได้รับควรจะเป็นยาที่สามารถรักษาความเจ็บป่วยของสังคม หรือผู้อื่น สามารถที่จะสมานน้ำใจของผู้มี ความทุกข์ยาก
เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงยากที่สุด ต้องทะนุถนอมเป็นอย่างดีจึงจะเจริญเติบโตได้เป็นสัญลักษณ์ของการท้าชวนและท้าทาย
ประวัติ
คริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนต์เข้ามาประกาศเผยแพร่ครั้งแรกในประเทศไทย สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นในปี พ.ศ. 2371 โดยคณะมิชชันนารีจากอังกฤษ คือ คณะลอนดอนมิชชันนารีโซไซเอ็ตตี้ (London Missionary Society) ต่อมาได้ติดต่อประสานงานให้คณะมิชชั่นอื่น ส่งมิชชันนารีเข้ามาประกาศเผยแพร่ด้วย เช่น มิชชันนารีคณะอเมริกันเพรสไบทีเรียนมิชชั่น เข้ามาประกาศเผยแพร่คริสต์ศาสนาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2383 ในช่วงแรกประกาศเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2404 ทางราชการประกาศอนุญาตให้ออกไปเผยแพร่ทำการประกาศนอกกรุงเทพฯได้ จึงส่งมิชชันนารีไปทำงานที่เพชรบุรี และในปี พ.ศ. 2410 ได้เข้ามาประกาศเผยแพร่ที่เชียงใหม่ ลักษณะการเผยแพร่ประกาศคริสต์ศาสนาสิ่งหนึ่งคือ การตั้งโรงเรียนเป็นสถานศึกษาแบบตะวันตก จัดสอน การเรียนการศึกษาแบบตะวันตกแก่เด็กชายและเด็กหญิง เป็นการเตรียมผู้นำสำหรับคริสตจักร และการบริหารโรงเรียน การดำเนินการพันธกิจด้านการศึกษาของมิชชั่น ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี มีการตั้งโรงเรียนในจังหวัดต่าง ๆ ที่มิชชั่นเข้าไปดำเนินการ รวมทั้งมีการตั้งโรงเรียนในคริสตจักรต่าง ๆ ที่มีความพร้อมด้วย ดังนั้นช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มิชชั่นจึงมีแนวความคิดที่จะจัดตั้งมหาวิทยาลัยคริสเตียนขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่
แนวความคิดจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากทางคณะกรรมาธิการต่างประเทศในนามของมิชชั่นที่สหรัฐอเมริกา ได้ตอบมาว่ายังไม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุน เพราะไม่มีงบประมาณเพียงพอ ต่อมาเมื่อมิชชั่นมีความพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยได้ แต่ก็ประสบกับอุปสรรคกับทางรัฐบาลไทยในขณะนั้นที่ยังไม่มีพระราชบัญญัติการศึกษาที่สนับสนุนให้ต่างประเทศมาตั้งมหาวิทยาลัย ในช่วงระยะเวลานี้ทางมิชชั่นก็เปิดดำเนินการโรงเรียนของมิชชั่น และมีการเปิดโรงเรียนที่ดำเนินการโดยคริสตจักรท้องถิ่นด้วย โรงเรียนเหล่านี้ได้นำเอาระบบการศึกษาแบบตะวันตกมาปรับปรุงใช้ในการดำเนินงานและอยู่ภายใต้การดูแลของมิชชั่นมาโดยตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2477 มีการตั้งสภาคริสตจักรในประเทศไทยขึ้น มิชชั่นได้มอบกิจการต่าง ๆ ให้กับสภาคริสตจักรฯ ดูแลและได้ปรับปรุงงานด้านการศึกษา สภาคริสตจักรฯ มีความตั้งใจที่จะตั้งมหาวิทยาลัยคริสเตียนเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของมิชชั่นลาวเหนือที่ได้ริเริ่มโครงการไว้ เมื่อความต้องการของผู้ที่จะศึกษาในระดับอุดมศึกษามีมากขึ้นและรัฐบาลไม่สามารถสนองตอบความต้องการได้อย่างทั่วถึง รัฐบาลจึงได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยเอกชนขึ้นในปี พ.ศ. 2512 จึงได้รื้อฟื้นความคิดที่จะตั้งสถาบันอุดมศึกษาขึ้นมาใหม่ โดยยกฐานะ 2 สถาบันคือ โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยแมคคอร์มิค และวิทยาลัยพระคริสตธรรม ซึ่งเป็นสถาบันที่เก่าแก่และตั้งมานานแล้วขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่รัฐบาลจะรับรองมาตรฐานได้ดังนั้นผู้อำนวยการของทั้ง 2 สถาบันดังกล่าวได้ตกลงร่วมกันเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดสภาคริสตจักรในประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาของสภาคริสตจักรฯ อีกหลายคน อาทิ ศจ.ดร.จอห์น แฮมลิน อาจารย์บุญชวน เจิมประไพ ศจ.ประเสริฐ อินทะพันธุ์ ร.ต.ท.แก้ว เนตตโยธิน นายแพทย์พิพัฒน์ ตรังรัฐพิทย์ ดร.คอนรัด คิงศ์ฮิลล์ ศจ.วิคเตอร์ แมคแอนนาแลน ศจ.ประพันธ์ จันทรบูรณ์ อาจารย์ประกาย นนทวาสี อาจารย์ธวัช เบญจวรรณ และอาจารย์โดแนลด์ แมคอิลวไรด์ ประชุมเกี่ยวกับการจัดตั้งวิทยาลัยเอกชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2513 ที่ประชุมมีมติเห็นสมควรให้จัดตั้งวิทยาลัยเอกชน และได้นำเสนอต่อสภาคริสตจักรฯ และสภาคริสตจักรฯ ได้พิจารณาเห็นชอบด้วย และได้แต่งตั้งคณะบุคคลดังกล่าวเป็น “คณะกรรมการดำเนินการจัดตั้งวิทยาลัยเอกชนของสภาคริสตจักรในประเทศไทย” เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2513 คณะกรรมการจัดตั้งวิทยาลัยเอกชนฯ ได้ตระเตรียมรายละเอียดของหลักสูตร และระเบียบเกี่ยวกับวิทยาลัยทุกอย่าง ในตอนแรกได้พิจารณาเปิด 2 แผนก คือ แผนกวิทยาศาสตร์ซึ่งเปิดสอนสาขาวิชาพยาบาล (แมคคอร์มิคเดิม) และแผนกศิลปศาสตร์ ซึ่งเปิดสอนสาขาวิชาปรัชญาและศาสนา สาขาวิชาดุริยศิลป์ และสาขาวิชาบริหาร
การตั้งชื่อวิทยาลัยนั้นคณะกรรมการดำเนินงานจัดตั้งวิทยาลัยเอกชน ได้มีมติที่ 71/2 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ให้เรียกชื่อวิทยาลัยว่า “วิทยาลัยคริสเตียนพายัพ” ดังนั้นจึงถือเอาวันที่ 16 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันสถาปนาวิทยาลัย ต่อมาในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 คณะกรรมการฯ ได้ประชุมกันและพิจารณาปรับเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยจาก “วิทยาลัยคริสเตียนพายัพ” เป็น “วิทยาลัยพายัพ”
วิทยาลัยพายัพเปิดสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2517 เปิดสอน 8 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ดุริยศิลป์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญาศาสนา สังคมวิทยา-มานุษยวิทยา การบริหารงานบุคคล และอนุปริญญาพยาบาลและอนามัย
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 วิทยาลัยพายัพได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัยเปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัย เป็น “มหาวิทยาลัย” และมหาวิทยาลัยพายัพได้ดำเนินการพัฒนาในด้านการเรียนการสอนมาโดยลำดับจนปัจจุบันนี้ได้รับอนุญาตให้เปิดสอนในระดับปริญญาตรี 9 คณะ 3 วิทยาลัย จำนวน 24 สาขาวิชา ระดับปริญญาโทอีก 6 สาขาวิชา และระดับปริญญาเอก 1 สาขาวิชา นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยพายัพได้พยายามปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อผลิตบัณฑิตตามแนวทางที่ตอบสนองความต้องการของสังคมอยู่ตลอดเวลา มหาวิทยาลัยพายัพได้ปฏิบัติภารกิจด้านต่างๆของสถาบันอุดมศึกษาได้ช่วยสนับสนุนให้การจัดการศึกษาและการผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับได้ว่ามหาวิทยาลัยพายัพได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติตลอดมา
การศึกษา
มหาวิทยาลัยพายัพจำแนกตามระดับการศึกษา ได้แก่ ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท ระดับปริญญาเอก และระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต ในปีการศึกษา 2563 มหาวิทยาลียพายัพได้มีการจัดการศึกษาโดยมีคณะที่เปิดสอนจำนวนทั้งสิ้น 6 คณะ 3 วิทยาลัย ได้แก่
หลักสูตรระดับปริญญาตรี
คณะกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
- คณะมนุษยศาสตร์และนิเทศศาสตร์
- สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารสำหรับชาวต่างประเทศ
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
- สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
- สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน
- สาขาวิชาจิตวิทยา
- สาขานิเทศศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจและวิทยาศาสตร์
- สาขาวิชาการตลาด
- สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว
- สาขาวิชาการจัดการ (วิชาเอก การจัดการ)
- สาขาวิชาการจัดการ (วิชาเอก การบริหารทรัพยากรมนุษย์)
- สาขาวิชาการจัดการ (วิชาเอก การจัดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)
- สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร
- สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์
- คณะบัญชี เศรษฐศาสตร์ การเงินและการธนาคาร
- สาขาวิชาการบัญชี
- สาขาวิชาการเงินและการธนาคาร
- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
คณะกลุ่มวิทยาลัย
- วิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี
- วิทยาลัยดุริยศิลป์
- วิทยาลัยนานาชาติ
- สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาการสื่อสารภาษาอังกฤษ (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ)
หลักสูตรบัณฑิตศึกษา
หลักสูตรภาษาไทย
- หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
- หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต
- หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคริสต์ศาสนศาสตร์
- หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์
หลักสูตรนานาชาติ
- หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษแก่ผู้พูดภาษาอื่น
- หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาศาสตร์
- หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างสันติภาพ
หลักสูตรประกาศนียบัตร
- ประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล
คณะกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- คณะเภสัชศาสตร์
- คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค
ทำเนียบอธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ
ลำดับ | รายนาม | ตำแหน่ง | ระยะเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง (นับจากปีการศึกษา) | รวม(ปี) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
1 | นายแพทย์พิพัฒน์ ตรังรัฐพิทย์ | ผู้อำนวยการ | พ.ศ. 2517 – พ.ศ. 2520 | 4 | |
2 | อาจารย์ ดร.อำนวย ทะพิงค์แก | อธิการบดี | พ.ศ. 2521 – พ.ศ. 2539 | 18 | ดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 |
3 | อาจารย์ ดร.บุญทอง ภู่เจริญ | อธิการบดี | พ.ศ. 2540 – พ.ศ. 2549 | 10 | |
4 | ศาสนาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์ | อธิการบดี | พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2555 | 6 | |
5 | รองศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญพิไล ฤทธาคณานนท์ | รักษาการอธิการบดี | พ.ศ. 2556 | 1 | |
6 | ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.สมพันธ์ วงษ์ดี | อธิการบดี | พ.ศ. 2557 – พ.ศ. 2560 | 4 | |
7 | อาจารย์ ดร.รักษ์ พรหมปาลิต | อธิการบดี | พ.ศ. 2561 | 1 | |
– | อาจารย์ ดร.อำนวย ทะพิงค์แก | รักษาการอธิการบดี | พ.ศ. 2562 | 1 | ดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 |
8 | อาจารย์อภิชา อินสุวรรณ | รักษาการอธิการบดี | พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน | ยังอยู่ในวาระ |
วิทยาเขต
- วิทยาเขตแม่คาว : ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- วิทยาเขตแก้วนวรัฐ : ถนนแก้วนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- วิทยาเขตธารแก้ว : ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยพายัพ อยู่ในอันดับที่ 2,481 ของโลก อันดับที่ 88 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 30 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย