ประวัติกลองพื้นเมืองล้านนา
ล้านนาเป็นอาณาจักรเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน ดินแดนล้านนาเป็นแหล่งรวบรวมศิลปะวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น คนเมือง ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทยอง ฯลฯ กลองล้านนา เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมทางดนตรี บ่งบอกถึงความเชื่อ ความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา เป็นสัญลักษณ์ของการประโคมในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การแห่ครัวทาน (เครื่องไทยทาน) ตีเป็นสัญญาณบอกวันพระ วันศีล หรือประโคมเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงในงานบุญต่าง ๆ นอกจากนี้แล้วกลองล้านนายังสัมพันธ์กับวิถีชีวิต ในอดีตกลองปูชาและกลองไชยมงคลยังทำหน้าที่ตีเป็นสัญญาณบอกศึก บอกทิศทางเข้าโจมตี รวมถึงการรวมพลของทหาร และการเรียกประชุมของชาวบ้านในวาระต่าง ๆ
กลอง ภาษาเหนือ เรียกว่า ก๋อง เป็นเครื่องตีให้จังหวะที่มีหลายชนิด หลายขนาด ในท้องถิ่นภาคเหนือ มีทั้งประเภทขึ้นหนังหน้าเดียวและประเภทขึ้นหนังสองหน้า ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
ประเภทของกลอง
ประเภทขึ้นหนังหน้าเดียว ได้แก่
๑ . กลองหลวง หรือ กลองห้ามมาร รูป ลักษณะเป็นกลองยาวคอดกลางปลายบานเป็นลำโพงยาวประมาณ ๓ . ๐ – ๓ . ๕ เมตร ขนาดหน้ากลองเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ ๖๐ – ๘๐ เซนติเมตร ต้องวางบนล้อเกวียน ใช้คนลากหลายคน เวลาตีต้องขึ้นคร่อมตีหรืออยู่ด้านหน้ากลอง โดยใช้มือขวาตีโดยมีผ้าพันมือทำเป็นรูปกรวยแหลมให้ผ้าพันมือกระทบหน้ากลอง ใช้ตีเป็นสัญญาณวันพระ ๘ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำในล้านนามีประเพณีการแข่งขันตีกลองหลวง ซึ่งนิยมกันมากในช่วง พ . ศ . ๒๕๒๐ เป็นต้นมา
๒ . กลองแอว หรือ กลองตึ่งนง คำ ว่า “ แอว ” แปลว่า สะเอว เรียกตามลักษณะกลองที่มีเอวคอดกลาง ส่วนคำว่า “ ตึ่งนง ” เรียกตามลักษณะเลียนเสียงตีกลองและฆ้อง กลองแอวมีรูปทรงแบบเดียวกับกลองหลวงแต่มีขนาดเล็กกว่า คือ ยาวประมาณ ๑๗๕ เซนติเมตร ขนาดหน้ากลองเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ใช้หามหรือใช้ตั้งกับที่ตี ใช้ตีประสมวงกลองแอว และมีประเพณีการแข่งขันการตีกลองแอวเดี่ยว ๆ ด้วย
๓ . กลองปูเจ่ เป็นกลองก้นยาวแบบของชาวไทใหญ่มีขนาดเล็กกว่ากลองแอว ยาวประมาณ ๑๔๐ เซนติเมตร ขนาดหน้ากลองเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒๖ เซนติเมตร ใช้สะพายตีและเล่นประสมวงกลองปูเจ่
๔ . กลองสิ้นหม้อง เป็นกลองก้นยาวขึ้นหนังหน้าเดียวแบบของภาคกลาง รูปร่างคล้ายกลองปูเจ่ และหน้ากลองมีขนาดเท่า ๆ กัน แต่รูปทรงสั้นกว่า คือยาวประมาณ ๘๐ – ๙๐ เซนติเมตร คนตีกลอง สามารถใช้สะพายบ่าได้ ใช้แขวนแห่ต่าง ๆ
ประเภทขึ้นหนังสองหน้า ได้แก่
๑ . กลองปูชา ( อ่าน ” ก๋องปู๋จา ”) คือกลองบูชา เดิมเรียกว่ากลองนันทเภรี เป็นกลองขึ้นสองหน้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่กับที่ แต่ใช้ตีหน้าเดียว มีหน้ากว้างประมาณ ๓๐ นิ้วขึ้นไป ปกติจะตั้งไว้ที่ศาลาไว้กลองหรือตั้งไว้ภายในวัดประกอบด้วยกลองขนาดใหญ่ ๑ ใบ ซึ่งมีขนาดหน้ากลองเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เมตร ความยาวของตัวกลองประมาณ ๑ . ๕ เมตร และกลองขนาดเล็ก เรียกว่า “ กลองแสะ ” หรือ “ ลูกตุบ ” อีก ๒ – ๓ ใบ ซึ่งมีขนาดลดหลั่นกัน กลองปูชาใช้ตีเป็นพุทธบูชาในโอกาส เกี่ยวกับพิธีกรรมทางพุทธศาสนา เช่น วันขึ้นหรือแรม ๗ ค่ำ และ ๑๔ ค่ำ ระหว่างเข้าพรรษา เป็นต้น บางแห่งใช้ตีเป็นสัญญาณบอกเวลาด้วย เวลาตีกลองปูชา จะใช้ผู้ตี ๒ คน คนหนึ่งใช้ไม้ค้อนตี ๒ มือ ตีทั้งกลองใหญ่และกลองเล็ก เป็นทำนองต่าง ๆ อีกคนหนึ่งใช้ไม้แสะ ( ไม้ไผ่ผ่าซีกจักปลาย ) ตีขัดจังหวะกลองยืนทำนองไปตลอด นอกจากนี้หากเป็นการตีประกวดกัน ก็ยังมีคนตีฆ้อง โหม่ง และฉาบ ประกอบด้วย
๒ . กลองสะบัดชัย เป็น กลองที่ดัดแปลงจากกลองปูชา ( บูชา ) ที่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อใช้หามนำหน้าขบวนแห่ได้ ใช้ตีเพื่อความเป็นสิริมงคลในงานมงคลต่าง ๆ ( ยกเว้นงานอวมงคล ) โดยเฉพาะนำขบวนครัวทาน กลองมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เมตร ด้านข้างหนาประมาณ ๓๐ เซนติเมตร และมีกลองเล็กที่ใช้ตีประกอบอีก ๓ ใบ เรียกว่า “ ลูกตุบ ” โดยผู้ทีตีจะเป็นคนเดียวกันกับที่ตีกลองสะบัดชัย ต่อมา ครูคำ กาไวย์ แห่งโรงเรียนนาฎศิลป์เชียงใหม่ได้นำเอา กลองรุกรัง คือกลองอย่าง กลองสะบัดชัยแทนกลองสะบัดชัยแบบดั้งเดิม
๓ . กลองมองเซิง รูปลักษณะคล้ายกลองปูชา แต่มีขนาดเล็กกว่า ขนาดหน้ากลองมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๔๕ – ๖๐ เซนติเมตร ด้านข้างยาวประมาณ ๗๕ – ๙๐ เซนติเมตร สามารถใช้สะพายตีได้ กติจะใช้ตีประกอบวงมองเซิงซึ่งเป็นดนตรีแบบของไทใหญ่ มีฆ้องชุดซึ่งมีขนาดและเสียงไล่ระดับกันมีสว่า ( ฉาบ ) ตีประกอบ
๔ . กลองตะหลดปด เป็นกลองสองหน้าขนาดเล็กมักนิยมแขวนติดกับกลองหลวง หรือกลองแอวใช้ตีตัดจังหวะร่วมกับการประสมวงแอวหรือวงตึ่งนง เล่นประกอบการฟ้อนเล็บ หรือฟ้อนเมือง ขนาดหน้ากลองมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ตัวกลองยาวประมาณ ๖๐ เซนติเมตร
๕ . กลองเต่งถิ้ง หรือ กลองโป่งป้ง เป็น กลองขึ้นหนังสองหน้า มีขาตั้ง ใช้ตีทั้งสองหน้าลักษณะเดียวกับตะโพนไทยและตะโพนมอญ ใช้เล่นประสมวง “ เต่งถิ้ง ” หรือวง “ พาทย์ ” ( วงปี่พาทย์ ) และวงสะล้อ – ซึง ( ดูเรื่องการประสมวงต่อไป ) กลองชนิดนี้มีหลายขนาด มีตั้งแต่ขนาดหน้ากลองเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒๐ – ๔๐ เซนติเมตร ถ้าเป็นขนาดเล็กบางทีก็เรียกว่า “ กลองโป่งป้ง ” หรือ “ กลองตัด ”
คีตาล้านนา กลองปู่จา
กลองแห่ แบบล้านนา
กลองแห่ แบบล้านนา บ้านสะแล่งต.มะเขือแจ้ ในงานดอยขะม้อ ลำพูน การแห่ก้องแห่ก๋อง ของชาวล้านนา เวลาช่วงที่มีเทศกาลต่างๆครับ ทีมแห่จากบ้าน หนองสะแล่ง ต.มะเขี้อแจ้ หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเกียวกับการทำยาสมุนไพรสะแล่งโอสถ แก้วินเวียน หน้ามือตาลายคล้ายจะเป็นลม