วัดหัวข่วง ตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ
วัดหัวข่วง ตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ
ประวัติวัดหัวข่วง
ตามที่ได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านพอจับใจความได้ดังนี้ วัดหัวข่วงนี้แต่เดิมได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งไม่ทราบนามมาจากวัดแสนเมืองมาหลวง (ซึ่งอีกนามหนึ่งเรียกว่าวัดหัวข่วง) ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ได้ธุดงค์จาริกมาที่หมู่บ้านนี้ ซึ่งแต่เดิมเรียกนามบ้านท่าปี้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีลานกว้าง (ภาษาล้านนาเรียกลานกว้างว่า “ข่วง”) ติดกับแม่น้ำปิง เป็นท่าพักของพ่อค้าซุงและคนเดินทางทางน้ำอยู่เสมอ เมื่อพระภิกษุจากวัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) ได้มาพบเห็นบริเวณลานกว้างซึ่งเป็นข่วงริมท่าน้ำก็ชอบใจ กอร์ปกับศรัทธาชาวบ้านก็เลื่อมใสในตัวท่าน จึงได้พากันยกลานท่าน้ำสร้างเป็นวัดขึ้นและได้ขนานนามว่า “วัดหัวข่วง” โดยสันนิฐานว่าอาศัยเหตุผล 2 ประการคือ
1. พระภิกษุผู้มาสร้างวัดนั้นมาจากวัดหัวข่วง
2. ลานกว้างท่าน้ำ ตามภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “ข่วง”ประกอบกับลานนี้อยู่หัวบ้าน จึงได้ชื่อว่า “หัวข่วง”
หลังจากได้ตั้งเป็นวัดก็มีพระภิกษุ สามเณร อยู่จำพรรษาตลอดมาจนได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างเป็นวัด ตามพระราชบัญญติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 ลงวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2425 ตั้งอยู่บ้านหัวข่วง เลขที่ 60 หมู่ 6 ต.สองแคว กิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัด มีเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 86 ตารางวา ทิศเหนือยาว 1 เส้น 2 ศอก จดทางสาธารณประโยชน์ ทิศใต้ยาว 1 เส้น 2 วา จดทางสาธารณประโยชน์ ทิศตะวันออกยาว 1 สัน 10 วา จดทางสาธารณประโยชน์ เสนาสนะสิ่งก่อสร้างประกอบด้วย กุฏิ วิหาร เจดีย์ และถังน้ำประปา
วัดหัวข่วง ตั้งขึ้นได้ประมาณ 200 ปี เดิมทีเป็นวัดร้าง ต่อมาได้มีภิกษุรูปหนึ่งเดินธุดงค์มาจากวัดหัวข่วงในเมือง (วัดแสนเมืองมาหลวง) และได้มาจำพรรษา จึงตั้งชื่อวัดตามชื่อวัดเดิมที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่
การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ
รูปที่ 1 ครูบาตา ถาวโร พ.ศ. 2470-พ.ศ.2485
รูปที่ 2 พระกุย พ.ศ.2485-พ.ศ.2490
รูปที่ 3 พระสุนทร พ.ศ.2490-พ.ศ.2499
รูปที่ 4 พระบาคำ พ.ศ.2492-พ.ศ.2502
รูปที่ 6 พระอธิการบุญทา ยติกาโร พ.ศ.2502-พ.ศ.2517
รูปที่ 7 พระอธิการบุญศรี ชวนปญโญ พ.ศ.2517-พ.ศ.2527
รูปที่ 8 พระครูวรกิตติภิมณฑ์ ตั้งแต่ พ.ศ.2527 –
ที่มา : http://songkwae.go.th/index.php?_mod=dHJhdmVs&no=NA